ฤทธิ์พายุ ‘วิภา’ ฝนถล่มหนัก ‘เหนือ-อีสานตอนบน-กลางฝั่งตะวันตก-ตะวันออก’

พายุโซนร้อน”วิภา” อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัสแล้ว ศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองเชียงขวาง สปป.ลาว  ห่างจาก จ.น่าน ประมาณ 180 กม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือของไทยในวันที่ 23 ก.ค. ส่งผลให้ไทยตอนบน มีฝนปานกลางถึงตกหนัก ปกคลุมบริเวณภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง พายุ “วิภา” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 14 ระบุว่า เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่  23 ก.ค. พายุโซนร้อน “วิภา” ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว และเมื่อเวลา 04.00 น. ปกคลุมบริเวณแขวงเชียงขวาง ประเทศลาว หรือที่ละติจูด 19.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 103.0 องศาตะวันออก โดยอยู่ห่างจากจังหวัดน่านไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 180 กิโลเมตร

มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยใต้ ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงต่อไป จะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบนในระยะต่อไป สำรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยกำลังแรง

จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 23-24 ก.ค. บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

จังหวัดคาดว่า จะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

วันที่ 24 กรกฎาคม 2568

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี และกาญจนบุรี

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก จันทบุรี และตราด

สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าว.