กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ เมื่อยูทูบเบอร์ชื่อดัง พีช พิชญา ได้โพสต์คลิปรีวิวการไปรับประทานอาหารที่ร้าน เจ๊ไฝ (Jay Fai) ร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังของกรุงเทพฯ ที่ได้รับรางวัล มิชลินสตาร์ ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านรสชาติและคุณภาพวัตถุดิบ
เมนูที่กลายเป็นประเด็นคือ ไข่เจียวปู ที่ขึ้นชื่อของร้าน โดยในเมนูระบุราคาไว้ราว 1,000–1,500 บาท แต่เมื่อเช็กบิลกลับพบว่าเป็นราคา 4,000 บาท โดยทางร้านอ้างว่าเป็นเวอร์ชันพรีเมียมสำหรับลูกค้าระดับ VVIP ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ลูกค้าระบุว่าไม่ได้รับการชี้แจงหรือแจ้งราคาก่อนสั่ง จึงรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ
ไข่เจียว 4 พัน เสียงสะท้อนจากสังคม ความเห็นแตกสองฝ่าย
- ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย มองว่าการคิดราคาแพงเกินจริง และไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า อาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิผู้บริโภค และสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของร้านที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นสตรีทฟู้ดระดับโลก
- ฝ่ายที่เห็นด้วย ระบุว่า ราคาอาหารขึ้นอยู่กับคุณภาพวัตถุดิบและความหายาก หากลูกค้าต้องการประสบการณ์พิเศษก็ถือว่าเป็นการเลือกจ่ายเอง แต่ยอมรับว่าราคาดังกล่าวไม่เหมาะกับผู้บริโภคทั่วไป
หน่วยงานรัฐเริ่มขยับ
จากกระแสที่เกิดขึ้น กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีการตั้งราคา และการแสดงราคาของร้านเจ๊ไฝ โดยย้ำว่า ร้านอาหารทุกแห่งต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ต้องแสดงราคาอาหารอย่างชัดเจน หากพบว่ามีการเอาเปรียบผู้บริโภคอาจมีบทลงโทษตามกฎหมาย
กฎหมายและบทลงโทษ ไม่แสดงราคาชัดเจน
ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 28 กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องแสดงราคาสินค้าและบริการอย่างชัดเจน หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม จะมีโทษดังนี้
- โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับการไม่แสดงราคาที่ชัดเจน
- โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบว่ามีการเอาเปรียบผู้บริโภค หรือจำหน่ายสินค้าและบริการเกินกว่าราคาที่กำหนด
กรมการค้าภายในย้ำว่า หากพบการเอาเปรียบผู้บริโภค สามารถแจ้งสายด่วน 1569 เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้ทันที
บทเรียนสำหรับผู้บริโภค เจอไข่เจียวปู แพงเว่อร์
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ร้านอาหารจะมีชื่อเสียงและได้รับรางวัลระดับโลก แต่ผู้บริโภคยังคงต้องใช้สิทธิของตนเองในการตรวจสอบราคาให้ชัดเจนก่อนสั่ง เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ในทางกลับกัน สำหรับผู้บริโภคทั่วไปที่ไม่ต้องการใช้จ่ายเกินจำเป็น ยังมีทางเลือกอื่น ๆ เช่น การเลือกร้านอาหารสตรีทฟู้ด หรือร้านอาหารชื่อดังที่มีเมนู ไข่เจียวปูคุณภาพดี ราคาประมาณ 800–1,500 บาท ซึ่งยังคงตอบโจทย์เรื่องรสชาติและวัตถุดิบที่สดใหม่โดยไม่ต้องจ่ายสูงเกินควร
หรือแม้กระทั่งการทำรับประทานเองที่บ้าน ด้วยงบประมาณ 4,000 บาทก็สามารถซื้อวัตถุดิบคุณภาพดีและทำได้หลายมื้อ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าและควบคุมมาตรฐานได้ด้วยตนเอง
ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000 บาท” ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของราคาอาหารที่สูงเกินคาด แต่ยังสะท้อนถึงความสำคัญของความโปร่งใสในการทำธุรกิจ และการรักษาสิทธิของผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความสมเหตุสมผลในการใช้จ่ายในยุคที่เศรษฐกิจไม่สู้ดี ผู้บริโภคจึงควรตระหนักว่า “การเลือกกิน” เป็นสิทธิที่ทุกคนสามารถกำหนดได้ด้วยตนเอง และต้องไม่ถูกละเมิดโดยผู้ประกอบการ