เตือน “เศรษฐกิจสีเทา” และการฟอกเงินจากอาชญากรรมข้ามชาติ กำลังคุกคามเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก หากรัฐยังนิ่งเฉย อาจถูกนานาชาติคว่ำบาตร นำไปสู่การสูญเสียความเชื่อมั่นของนักลงทุน และเปิดทางให้องค์กรอาชญากรรม แทรกแซงการเมืองได้ในอนาคต
รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาการเป็น “ศูนย์กลางฟอกเงิน” จากกิจกรรมผิดกฎหมายขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะเครือข่ายจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชาและเมียนมา ซึ่งกำลังถูกนานาชาติปราบปรามอย่างเข้มข้น
แรงกดดันจากต่างประเทศถือเป็น “โอกาสสำคัญ” ของรัฐบาลไทยในการเดินหน้าจัดการกับเศรษฐกิจสีเทา อย่างเด็ดขาด เพราะหากปล่อยไว้ จะบั่นทอนความน่าเชื่อถือของระบบเศรษฐกิจไทย ทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจ และยังส่งผลต่อความมั่นคงทางการเมืองและสังคม เนื่องจากกลุ่มทุนสีเทา อาจใช้เงินซื้อนักการเมืองหรือข้าราชการ เพื่อสร้างอิทธิพลทางอำนาจได้
ปัจจุบันประเทศไทย มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจนอกระบบจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่ากว่า 50% ของจีดีพี ซึ่งรวมถึงธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น ค้ายาเสพติด ค้าแรงงานทาส การพนัน และค้าประเวณี โดยเฉพาะกลุ่มทุน “จีนเทา” ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจสีดำและฟอกเงินตามแนวชายแดนไทย จึงจำเป็นต้องเร่งจัดการและนำเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบ เพื่อเพิ่มการจัดเก็บภาษีและการกำกับดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ
หากไทยยังละเลยการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสีเทา อาจเผชิญความเสี่ยงต่อการถูก “คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ” จากนานาชาติในอนาคต ขณะเดียวกัน หากไทยต้องการก้าวสู่การเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งสร้างระบบเศรษฐกิจที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ทั้งด้านการเงิน การป้องกันการฉ้อโกง และการคุ้มครองผู้บริโภค
ในอนาคตหากประเทศไทยมีนโยบายเปิด “คาสิโนถูกกฎหมาย” ต้องระวังไม่ให้กลายเป็นช่องทางฟอกเงินหรือเป็นแหล่งอาชญากรรมใหม่ พร้อมย้ำว่าตัวอย่างที่ดีคือประเทศที่มีธรรมาภิบาลเข้มแข็งอย่างสิงคโปร์ ในขณะที่ประเทศที่ละเลย เช่น กัมพูชาและเมียนมา กลับกลายเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติ
ภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล ต้องการยกระดับสู่เศรษฐกิจโปร่งใสและมั่นคง ในการจัดการ “เศรษฐกิจสีเทา” และ “ขบวนการฟอกเงิน” เพื่อปกป้องทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง และภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีโลก