บทเรียนน้ำท่วมหาดใหญ่ สัญญาณเตือนกรุงเทพฯ 4–5 ปี เสี่ยงจมทะเล

ภูมิอากาศสุดขั้ว น้ำท่วม ฝนตกหนัก บทเรียนน้ำท่วมหาดใหญ่ ความล้มเหลวการบริหารจัดการภัยพิบัติไทย กระทบเศรษฐกิจอย่างหนัก ต้องเร่งลงทุนระบบน้ำ ปกป้องเมืองหลวงก่อนสาย

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า น้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่ เป็นภาพชัดเจนของความล้มเหลวด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติไทย ขณะที่ภาวะโลกร้อนและลานีญา ทำให้ปัญหาน้ำท่วม ฝนหนัก และภูมิอากาศสุดขั้วเกิดบ่อยขึ้น ความเสียหายทางเศรษฐกิจ ชีวิต ทรัพย์สิน และการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรได้รับผลกระทบหนักที่สุด

ความเสี่ยงกรุงเทพฯ จมทะเลภายในไม่กี่ปี

งานวิจัยกรีนพีซเตือนว่า อีก 4–5 ปีข้างหน้า กรุงเทพฯอาจจมใต้ระดับน้ำทะเล หากไม่เร่งลงทุนป้องกัน ขณะที่ข้อมูลคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC)  ชี้ว่า ระดับน้ำทะเลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากเกิดน้ำหลากจากภาคเหนือร่วมกับน้ำทะเลหนุน ความเสียหายอาจหนักกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 หลายเท่า คาดมูลค่าความเสียหายสูงถึง 18.6 ล้านล้านบาท ประชาชนกว่า 10.45 ล้านคน ได้รับผลกระทบ

ชงยุทธศาสตร์ป้องกันกทม. ลดภัยพิบัติระยะยาว

รศ. ดร. อนุสรณ์ เสนอว่า ไทยต้องหยุดพัฒนาที่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นต้นเหตุให้โลกร้อนรุนแรงขึ้น ควรเร่งลงทุนระบบบริหารจัดการน้ำ ช่วยลดน้ำท่วม–ภัยแล้งที่เกิดซ้ำซาก พร้อมช่วยฟื้นตัวให้ภาคเกษตรและแรงงานฐานราก

  1. สร้างเขื่อนกั้นน้ำหรือถนนเลียบชายฝั่งยกสูง
  2. ปลูกป่าชายเลน เป็นเกราะธรรมชาติ
  3. จัดระเบียบการใช้ที่ดินริมชายฝั่ง
  4. กระจายการลงทุนสู่ภูมิภาค ลดความแออัดเมืองหลวง
  5. ใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อลดโลกร้อน
  6. ศึกษาแนวทางย้ายเมืองหลวง แบบอินโดนีเซีย

รัฐบาลใหม่ต้องลงมือทันที เน้นการปกป้องกรุงเทพฯและปริมณฑลจากน้ำทะเลหนุนและน้ำท่วมใหญ่ในอนาคต เพราะความเสียหายหากเกิดขึ้น จะหนักกว่าเหตุการณ์หาดใหญ่หลายเท่า

ไทยกำลังเผชิญภัยพิบัติรุนแรงขึ้นจากโลกร้อน น้ำท่วมหาดใหญ่เป็นสัญญาณเตือนใหญ่ กรุงเทพฯมีความเสี่ยงจมทะเลภายในไม่กี่ปี หากไม่เร่งลงทุนระบบน้ำและพัฒนาแบบยั่งยืน เศรษฐกิจอาจเสียหายหลายล้านล้านบาท รัฐต้องทำทันทีเพื่อปกป้องเมืองหลวงและประชาชนฐานราก.